โปรโมชั่นจากบัตรเครดิตSCB และความ "ต่ำ" จาก Anantara vacation club
เรื่องมีอยู่ว่าพ่อผมได้รับเอกสารโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต SCB ว่าได้รับสิทธิพิเศษ ไปพักที่รีสอร์ท Anantara vacation club ภูเก็ต 3วัน 2คืน 2ท่าน รวมอาหารเช้า ในราคาสี่พันกว่าบาท จากราคาเต็มเป็นหมื่น แต่ต้องแลกกับการเข้าฟังบรรยาย 90นาที
ที่บ้านเลยปรึกษากัน ก็ตกลงว่าจะลองโทรไปถามตามเบอร์ของรีสอร์ท และแจ้งว่าจะไปทั้งครอบครัว(พ่อ แม่ น้องชายและผม) ทางรีสอร์ทจึงขอเปลี่ยนห้องเปนแบบ 2ห้องนอน และคิดค่าบริการรวมทั้งหมด 9พันกว่าบาท ก็ตกลงจองห้องเรียบร้อย 21-23 ก.พ. และต้องเข้าฟังบรรยายในวันที่ 22 ก.พ. 10โมงเช้า
พอผมและครอบครัวมาถึง การบริการดีมาก บรรยายกาศ สถานที่สุดๆไปเลย ก็มีความสุขกันดี จนคืนวันที่21 (พรุ่งนี้เช้าต้องไปฟังบรรยาย) ผมเลยลองหาข้อมูลในพันทิพย์ดูว่ามีลักษณะยังไงบ้าง ก็ได้ข้อมูลมาระดับนึง แต่ครอบครัวตกลงกันแล้วว่าไม่สมัครสมาชิกแน่นอน
เมื่อถึงเวลา(เมื่อเช้านี้เองครับ) ก็เข้าไปฟัง.......
ทางรีสอร์ทจัดเป็นห้องเล็กส่วนตัวให้ เข้าไปกันหมด 4คนรวมเซลล์เป็น5 ในช่วงเวลาที่คุยกันนั้น ครอบครัวผมมี life style ที่ไม่เหมาะกับโรงแรมแบบนี้และการดำเนินชีวิตที่ไม่คุ้มค่ามากๆกับการสมัครสมาชิก คือ ครอบครัวผมพ่อแม่เปนพ่อค้าแม่ค้า มีธุรกิจเล็กๆเปนของตัวเอง เที่ยวตจว.ครั้งล่าสุดเมื่อปี2549 พ่อกับแม่ไม่ได้เปนคนชอบท่องเที่ยวเลย แถมมีหนี้สินอีกเป็นหลักสิบล้าน หรือถ้าไปเที่ยวก็จะไปแบบครอบครัวใหญ่ ไปมีเกือบ10คน(ชวนพี่ป้าน้าอาไปกัน)และจะเน้นเที่ยวข้างนอกมากกว่าอยู่ในที่พัก มันเลยไม่เหมาะกับรีสอร์ทแบบนี้เท่าไหร่ ผมพูดชัดเจนทุกอย่างเพราะไม่อยากให้น้องเซลล์ต้องเหนื่อยพูดขายผม เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ไม่สมัครอยู่แล้วแต่ก็เกรงใจเห็นน้องมีความพยายามอยากจะนำเสนอ ก็ฟังๆๆๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆ
จนสุดท้ายน้องผู้ชายคนนี้ไปเรียกผู้หญิงมาอีกคนเพื่อจะมาแจ้งเกี่ยวกับราคาของการสมัครสมาชิก ผู้หญิงคนนี้ชื่อน้ำ เปนManager ก็เข้ามาเพื่อจะพูดขายอีก ผมจึงพูดซ้ำอีกรอบอย่างที่บอกน้องผู้ชายคนนั้นไปว่าผมซื้อไปก็ไม่คุ้ม และที่มาครั้งนี้ก็มาเพราะคิดว่าเปนโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต และคิดว่าการเข้าฟังบรรยายคือการมาฟังพรีเซ็นเกี่ยวกับรีสอร์ท บลาๆๆๆๆ Managerก็ยังหว่านล้อมพูดขายอยู่จนเค้าคงหมดความอดทนและพูดว่า "โอเคบ๊อบบี้ ในเมื่อเค้าไม่เห็นในคุณค่าของการสมัครของเรา ก็ไม่จำเป็นต้องบอกราคาแล้วละ เหนื่อยแถมบอกไปก็ไม่ได้เงิน" แล้วหันกลับมาพูดกับพวกผมว่า "ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ เที่ยวภูเก็ตให้สนุกนะคะเพราะอาจจะเที่ยวแบบนี้เปนครั้งสุดท้าย" ครอบครัวผมก็เงียบไม่ตอบโต้และกำลังทยอยเดินออกจากห้อง Managerก็ยังพูดส่งท้ายมาว่า "ยังไงก็ไม่ต้องออกไปเที่ยวข้างนอกหรอกนะค่ะ ออออออยู่(ลากเสียง)ในห้องพักให้คุ้มเถอะคะ เพราะคงไม่มีโอกาสได้มาพักแบบนี้อีกแล้วหลังจากนี้"
ผมและครอบครัวเดินออกมาแบบหน้าชาและอึ้งมาก ทำไมรีสอร์ทเค้ารับพนักงานมาได้ต่ำมาก มีการศึกษาหรือป่าว พ่อแม่เค้าสอนมาแบบนี้เหรอ ผมเองประทับใจการบริการมาก ถึงขนาดขอโบวชัวร์จากน้องเซลล์ว่าจะเอาไปแนะนำให้เพื่อนๆมาเที่ยว เจอแบบนี้ผมตั้งใจเลยว่าโรงแรมในเครือนี้ผมจะไม่ไปใช้บริการอีกแน่ๆ ผมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสทการสมัครสมาชิก แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกผมแบบนี้ แทนที่จะจบกันด้วยดีและเผื่ออนาคตเราจะมาพักอีก หรือ แนะนำเพื่อนๆ ญาติๆมา เจอแบบนี้ผมขอบายและสาปแช่งผู้หญิงคนนั้นขอให้ไม่เจริญยิ่งๆลงไปละกันครับ
เอามาแชร์ให้ฟังสำหรับความ "ต่ำ" ของพนักงานรีสอร์ทนี้
ที่บ้านเลยปรึกษากัน ก็ตกลงว่าจะลองโทรไปถามตามเบอร์ของรีสอร์ท และแจ้งว่าจะไปทั้งครอบครัว(พ่อ แม่ น้องชายและผม) ทางรีสอร์ทจึงขอเปลี่ยนห้องเปนแบบ 2ห้องนอน และคิดค่าบริการรวมทั้งหมด 9พันกว่าบาท ก็ตกลงจองห้องเรียบร้อย 21-23 ก.พ. และต้องเข้าฟังบรรยายในวันที่ 22 ก.พ. 10โมงเช้า
พอผมและครอบครัวมาถึง การบริการดีมาก บรรยายกาศ สถานที่สุดๆไปเลย ก็มีความสุขกันดี จนคืนวันที่21 (พรุ่งนี้เช้าต้องไปฟังบรรยาย) ผมเลยลองหาข้อมูลในพันทิพย์ดูว่ามีลักษณะยังไงบ้าง ก็ได้ข้อมูลมาระดับนึง แต่ครอบครัวตกลงกันแล้วว่าไม่สมัครสมาชิกแน่นอน
เมื่อถึงเวลา(เมื่อเช้านี้เองครับ) ก็เข้าไปฟัง.......
ทางรีสอร์ทจัดเป็นห้องเล็กส่วนตัวให้ เข้าไปกันหมด 4คนรวมเซลล์เป็น5 ในช่วงเวลาที่คุยกันนั้น ครอบครัวผมมี life style ที่ไม่เหมาะกับโรงแรมแบบนี้และการดำเนินชีวิตที่ไม่คุ้มค่ามากๆกับการสมัครสมาชิก คือ ครอบครัวผมพ่อแม่เปนพ่อค้าแม่ค้า มีธุรกิจเล็กๆเปนของตัวเอง เที่ยวตจว.ครั้งล่าสุดเมื่อปี2549 พ่อกับแม่ไม่ได้เปนคนชอบท่องเที่ยวเลย แถมมีหนี้สินอีกเป็นหลักสิบล้าน หรือถ้าไปเที่ยวก็จะไปแบบครอบครัวใหญ่ ไปมีเกือบ10คน(ชวนพี่ป้าน้าอาไปกัน)และจะเน้นเที่ยวข้างนอกมากกว่าอยู่ในที่พัก มันเลยไม่เหมาะกับรีสอร์ทแบบนี้เท่าไหร่ ผมพูดชัดเจนทุกอย่างเพราะไม่อยากให้น้องเซลล์ต้องเหนื่อยพูดขายผม เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ไม่สมัครอยู่แล้วแต่ก็เกรงใจเห็นน้องมีความพยายามอยากจะนำเสนอ ก็ฟังๆๆๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆ
จนสุดท้ายน้องผู้ชายคนนี้ไปเรียกผู้หญิงมาอีกคนเพื่อจะมาแจ้งเกี่ยวกับราคาของการสมัครสมาชิก ผู้หญิงคนนี้ชื่อน้ำ เปนManager ก็เข้ามาเพื่อจะพูดขายอีก ผมจึงพูดซ้ำอีกรอบอย่างที่บอกน้องผู้ชายคนนั้นไปว่าผมซื้อไปก็ไม่คุ้ม และที่มาครั้งนี้ก็มาเพราะคิดว่าเปนโปรโมชั่นจากบัตรเครดิต และคิดว่าการเข้าฟังบรรยายคือการมาฟังพรีเซ็นเกี่ยวกับรีสอร์ท บลาๆๆๆๆ Managerก็ยังหว่านล้อมพูดขายอยู่จนเค้าคงหมดความอดทนและพูดว่า "โอเคบ๊อบบี้ ในเมื่อเค้าไม่เห็นในคุณค่าของการสมัครของเรา ก็ไม่จำเป็นต้องบอกราคาแล้วละ เหนื่อยแถมบอกไปก็ไม่ได้เงิน" แล้วหันกลับมาพูดกับพวกผมว่า "ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ เที่ยวภูเก็ตให้สนุกนะคะเพราะอาจจะเที่ยวแบบนี้เปนครั้งสุดท้าย" ครอบครัวผมก็เงียบไม่ตอบโต้และกำลังทยอยเดินออกจากห้อง Managerก็ยังพูดส่งท้ายมาว่า "ยังไงก็ไม่ต้องออกไปเที่ยวข้างนอกหรอกนะค่ะ ออออออยู่(ลากเสียง)ในห้องพักให้คุ้มเถอะคะ เพราะคงไม่มีโอกาสได้มาพักแบบนี้อีกแล้วหลังจากนี้"
ผมและครอบครัวเดินออกมาแบบหน้าชาและอึ้งมาก ทำไมรีสอร์ทเค้ารับพนักงานมาได้ต่ำมาก มีการศึกษาหรือป่าว พ่อแม่เค้าสอนมาแบบนี้เหรอ ผมเองประทับใจการบริการมาก ถึงขนาดขอโบวชัวร์จากน้องเซลล์ว่าจะเอาไปแนะนำให้เพื่อนๆมาเที่ยว เจอแบบนี้ผมตั้งใจเลยว่าโรงแรมในเครือนี้ผมจะไม่ไปใช้บริการอีกแน่ๆ ผมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสทการสมัครสมาชิก แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกผมแบบนี้ แทนที่จะจบกันด้วยดีและเผื่ออนาคตเราจะมาพักอีก หรือ แนะนำเพื่อนๆ ญาติๆมา เจอแบบนี้ผมขอบายและสาปแช่งผู้หญิงคนนั้นขอให้ไม่เจริญยิ่งๆลงไปละกันครับ
เอามาแชร์ให้ฟังสำหรับความ "ต่ำ" ของพนักงานรีสอร์ทนี้
อ้างอิง http://pantip.com/topic/30174479